กรุณารอสักครู่

 

HomeCategoryกฏหมายแรงงาน Archives - Page 8 of 68 - บริษัท ลีกัล คลินิก แอนด์ เอดดูเคชั่น จำกัด

สัญญาจ้างแบบมีกำหนดระยะเวลา เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญา จะได้ค่าชดเชยหรือไม่ ?

สัญญาจ้างแบบมีกำหนดระยะเวลา เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญา จะได้ค่าชดเชยหรือไม่ ?? หลายบริษัท ใช้วิธีทำสัญญาจางปีต่อปี เมื่อครบปี ก็ทำสัญญาต่ออีกฉบับนึง หรือบางบริษัท ก็ใช้วิธีการทำสัญญาแค่ 11 เดือนโดยเข้าใจว่าวิธีดังกล่าวจะไม่ต้องค่าชดเชย ความเข้าใจแบบนี้ทำให้เสียหายมาหลายบริษัทแล้วนะคะ แต่จะเสียหายอย่างไรคลินิกกฎหมายแรงงานอธิบายให้เข้าใจแบบนี้ค่ะ 1. หลายคน ตีความจากวรรคสามของมาตรา 118 ที่ว่า”..ค่าชดเชยในวรรคหนึ่ง มีให้ใช้บังคับแก่ลูกจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้..” จึงใช้วิธีการทำสัญญาจ้างลูกจ้างเป็นแบบมีกำหนดระยะเวลาเพื่อที่จะไม่ต้องจายค่าชดเชย ซึ่งแบบนี้ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะ ในวรรค 4 ของมาตราเดียวกันกำหนดว่าจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาตามวรรคสามจะกระทำได้ สำหรับการจ้างงานในโครงการเฉพาะที่ไม่ใช่งานปกติของกิจการ หรือการค้าของนายจ้างซึ่งต้องมีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของงานที่แน่นอนหรือในงานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราวมีกำหนด การสิ้นสุด หรือความสำเร็จของงาน หรือในงานที่เป็นไปตามฤดูกาลและได้จ้างในช่วงเวลาของฤดูกาลนั้น ซึ่งงานนั้นจะต้องแล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกิน 2 ปี 2.ดังนั้นหากลูกจ้างท่าน ใด ทำงานโดยเซ็นสัญญาเป็นพนักงานแบบมีกำหนดระยะเวลา ในกิจการที่เป็นไปเพื่อการประกอบธุรกิจปกติหรือทางการค้าของนายจ้าง เมื่อครบกำหนดสัญญาจ้างลูกจ้างจึงมีสิทธิได้รับค่าชดเชย 3.การกำหนดสัญญาจ้างเป็น 11 เดือนนั้นก็ไม่สามารถเลี่ยงไม่จ่ายค่าชดเชยได้ เพราะค่าชดเชยจะเกิดขึ้นเมื่อลูกจ้างทำงานต่อเนื่องกันครบ 120 วันและถูกเลิกจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่มีความผิด (ซึ่งการณีที่สัญญาสิ้นสุดลงตามกหนดระยะเวลาก็ถือว่าเป็นการเลิกจ้างโดยที่ลูกจางไม่มีความผิดเช่นกัน) 4. อย่างไรก็ตามสัญญาแบบมีกำหนดระยะเวลานี้นายจ้าง ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า ก่อนครบกำหนดเพราะมีระยะเวลากำหนดแล้ว เช่นเดียวกันลูกจ้างก็ไม่ต้องแสดงเจตนาลาออกอีก ดังนั้น ค่าตกใจจึงถูกตัดออกไป ในสัญญาประเภทนี้ 5.ส่วนลูกจ้างที่ประสงค์ขอออกก่อนระยะเวลานั้นสิ้นสุดก็ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย...

ลูกจ้างขู่จะเปิดเผยความลับทางการค้า และข้อมูลการรักษาของลูกค้า  นายจ้างทำยังไงดี

ลูกจ้างขู่จะเปิดเผยความลับทางการค้า และข้อมูลการรักษาของลูกค้า นายจ้างทำยังไงดี ไม่เชื่อก็ต้องเชื่ออ่ะว่ามีการขู่แบบนี้ เพียงเพราะจะให้ไม่ผ่านทดลองงาน คนขู่นี่คิดสั้นมากกก คือทำแบบนี้อยู่ต่อก็ไม่ได้ ปล่อยไปก็คุกนะเธอ ขออธิบายก่อนว่า ข้อมูล Sensitive data คืออะไร ? ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมืองความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) กำหนดว่าห้ามเก็บใช้รวบรวม หรือเปิดเผยข้อมูล โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ซึ่งหากทำการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอม ผู้ควบคุมข้อมูล (นายจ้าง) จะมีโทษทางอาญา และความรับผิดทางแพ่ง 1. หากลูกจ้าง (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ขู่ว่าถ้าไม่ผ่านโปรให้ จะเปิดเผยข้อมูล Sensitive data (ที่นายจ้างเป็นผู้เก็บใช้ รวมรวม) ออกสู่สาธารณะ นายจ้างทำอย่างไรได้บ้าง ? 1.1 แนะนำให้นายจ้างเก็บหลักฐานและไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้างก่อนเลย ซึ่งกรณีดังกล่าวเข้าลักษณะความผิดลหุโทษ ตาม ม. 392 ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว...

สัญญากำหนดว่า หลังลาออก”ห้าม” ไปทำธุรกิจประเภทเดียวกัน เกินไปมั้ยพี่ทนาย บังคับใช้ได้จริงเหรอ

สัญญากำหนดว่า หลังลาออก”ห้าม” ไปทำธุรกิจประเภทเดียวกัน เกินไปมั้ยพี่ทนาย บังคับใช้ได้จริงเหรอ ข้อตกลงจำกัดสิทธิในการทำสัญญาจ้างแรงงานนั้น โดยทั่วไปสามารถทำได้ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง  นอกจากมีหน้าที่ทำงานตามคำสั่งนายจ้างแล้ว ลูกจ้างยังหน้าที่งดเว้นไม่กระทำการใด ๆ ที่ไม่สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เช่น ลูกจ้างต้องไม่เปิดเผยความลับทางการค้าของนายจ้าง  ไม่ทำให้ทรัพย์สินของนายจ้างได้รับความเสียหาย ไม่ไปทำงานหรือเข้าเป็นหุ้นส่วน ผู้ถือหุ้น เป็นผู้บริหารในสถานประกอบการที่มีลักษณะเป็นอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับนายจ้าง ซึ่งการจำกัดสิทธิดังกล่าวนั้น กำหนดได้ทั้งระหว่างที่เป็นลูกจ้าง และหลังพ้นสภาพไปแล้ว กรณีที่ลูกจ้างลาออกไปประกอบกิจการค้าแข่ง หากในสัญญามีข้อตกลงว่าห้ามลูกจ้างประกอบกิจการค้าแข่ง ดังนี้ นายจ้างสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ หากข้อสัญญานั้นจำกัดสิทธิหรือนายจ้างได้เปรียบเกินสมควร ศาลมีอำนาจปรับลดได้ โดยหลักในการพิจารณาของศาลนั้น ประกอบด้วย 1.ข้อตกลงจำกัดสิทธินั้น ต้องไม่เป็นการตัดการประกอบอาชีพของลูกจ้างเลยทีเดียว เช่น กำหนดว่าห้ามประกอบกิจการค้าแข่งตลอดระยะเวลาที่ลาออกไปหรือพ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน ไม่ได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3597/2561 บันทึกข้อตกลงการทำงานและการอบรมการทำงาน แม้เป็นการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของจำเลยทั้งสองในการประกอบอาชีพ แต่คงห้ามเฉพาะไม่ให้ไปทำงานในบริษัทคู่แข่งหรือไม่ไปทำงานกับบริษัทอื่นใดที่ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกันกับโจทก์ รวมทั้งไม่ทำการใดอันเป็นการแข่งขันกับธุรกิจของโจทก์เฉพาะที่อาศัยข้อมูลทางการค้า อันเป็นความลับทางการค้าของโจทก์ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตลอดจนไม่กระทำหรือช่วยเหลือหรือยินยอมให้บุคคลใดกระทำการดังกล่าวตลอดระยะเวลาของสัญญานี้และภายในกำหนดระยะเวลาสองปีนับแต่สัญญานี้สิ้นสุดลงเท่านั้น มิได้เป็นการตัดการประกอบอาชีพของจำเลยทั้งสองโดยสิ้นเชิง ตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยทั้งสองมีโอกาสนำข้อมูลความลับทางการค้าของโจทก์ไปใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งอาจทำให้โจทก์ต้องเสียประโยชน์ทางการค้า ประกอบกับเมื่อคำนึงถึงทางได้เสียทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายของโจทก์และจำเลยทั้งสองแล้ว การจำกัดสิทธิในการประกอบอาชีพของจำเลยทั้งสองอันเป็นการแข่งขันกับโจทก์ เป็นระยะเวลาเพียงสองปีนับแต่วันที่สัญญานี้สิ้นสุด ไม่ทำให้จำเลยทั้งสองผู้ถูกจำกัดสิทธิต้องรับภาระมากกว่าที่จะพึงคาดหมายได้ตามปกติ จำเลยทั้งสองยังประกอบอาชีพอื่นๆได้โดยไม่มีข้อจำกัด จึงไม่เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม 2. หากจำกัดสูงเกินสมควร หรือทำให้นายจ้างได้เปรียบเกินสมควร ศาลมีอำนาจปรับลดข้อตกลงให้เป็นธรรมแก่คู่กรณีได้...

ขอหยุดพักร้อน แต่..นายจ้างไม่อนุญาต ผลจะเป็นยังไง?

ขอหยุดพักร้อนแต่นายจ้างไม่อนุญาต ผลจะเป็นยังไง?? ในกรณีที่ลูกจ้างยื่นขอหยุดพักผ่อน แต่ปรากฏว่านายจ้างไม่อนุญาต ผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไรนั้น ก่อนตอบ ต่องอธิบายก่อนว่า พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ กำหนดให้เป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดไม่ว่าจะเป็น วันหยุดประจำสัปดาห์ ม.28 วันหยุดตามประเพณี ม.29 และวันหยุดพักผ่อนประจำปี ม.30 ที่ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปี ดังนั้น หากลูกจ้างมีสิทธิหยุดพักผ่อนฯ ก็สามารถใช้สิทธิหยุดพักผ่อนฯ ได้ 1. นายจ้างมีสิทธิที่ไม่อนุญาตให้ใช้วันหยุดพักผ่อนได้หรือไม่ ? ขอตอบว่า  “มีสิทธิไม่อนุญาตให้หยุดพักผ่อนได้” หากเป็นกรณีดังต่อไปนี้ 1.1 หากลูกจ้างขอหยุดพักผ่อนนอกจากวันที่นายจ้างกำหนด นายจ้างก็มีสิทธิที่จะไม่อนุญาตได้ เพราะตาม ม.30 กำหนดไว้ว่า แม้นายจ้างจะมีหน้าที่ต้องจัดให้มีวันหยุดพักผ่อน แต่นายจ้างก็มีสิทธิกำหนดว่าจะให้ลูกจ้างหยุดวันใดก็ได้โดยนายจ้างต้องแจ้งล่วงหน้า ดังนั้น หากลูกจ้างขอหยุดพักผ่อนนอกจากวันที่นายจ้างกำหนด นายจ้างก็มีสิทธิที่จะไม่อนุญาต 1.2 หากนายจ้างและลูกจ้างตกลงให้หยุดพักผ่อนในวันใดก็ได้ ถ้าลูกจ้างรายนั้นลาโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบหรือข้อบังคับของทางบริษัท หรือ หากการหยุดไปนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบต่องานที่อาจทำให้งานเกิดความเสียหาย เช่น ลูกน้องในแผนกพร้อมใจกันลาพร้อมกัน 3 – 4 คน แบบนี้มีผลกระทบต่องาน นายจ้างไม่อนุญาตให้หยุดพักผ่อนได้ 2. หากลูกจ้างลาถูกต้องตามขั้นตอน...

คำถามยอดฮิต พี่ๆรปภ. รวมไว้ในโพสนี้

คำถามยอดฮิต พี่ๆรปภ. รวมไว้ในโพสนี้ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้เมื่อยความเพราะวันนี้จำร่วมคำถามที่พี่พี่พนักงานรักษาความปลอดภัยถามมากที่สุดเริ่มกันเลยค่ะ 1. เวลาทำงานของ รปภ ต้องทำวันละ กี่ชั่วโมง? ตอบ : เวลาทำงานของ รปภ ต้องทำวันหนึ่งไม่เกิน 8 ชั่วโมง แต่เนื่องจากงานรักษาความปลอดภัยเป็นงานบริการ นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงทำงานในวันหนึ่งกี่ชั่วโมงก็ได้ แต่เมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นต้องไม่เกินสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง 2. นายจ้างกำหนดให้ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง จะคำนวณค่าจ้างอย่างไร ? ตอบ : ตำแหน่ง รปภ กฎหมายกำหนดเวลาทำงานวันหนึ่งไม่เกิน 8 ชั่วโมง หากนายจ้างให้ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงาน นั้นคือ 4 ชั่วโมง 3. รปภ มีสิทธิได้ OT (ค่าล่วงเวลา) หรือไม่? ตอบ : “ไม่มีสิทธิ” เพราะตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.65 (9) กฎกระทรวง...

นายจ้างให้ลูกจ้างกู้ยืมเงินส่วนตัว มีดอกเบี้ยและกำหนดชำระชัดเจนแน่นอนต่อมาลูกจ้างไม่ยอมคืนเงิน ทวงถามแล้วก็ไม่จ่าย จะหักเงินออกจากค่าจ้างเอามาใช้หนี้ก็ทำไม่ได้

วันนี้มีมาศาลด้วยเรื่อง นายจ้างให้ลูกจ้างกู้ยืมเงินส่วนตัว มีดอกเบี้ยและกำหนดชำระชัดเจนแน่นอนต่อมาลูกจ้างไม่ยอมคืนเงิน ทวงถามแล้วก็ไม่จ่าย จะหักเงินออกจากค่าจ้างเอามาใช้หนี้ก็ทำไม่ได้ จึงเป็นคำถามว่าต้องไปศาลอะไร​ ระหว่างศาลแรงงานกับศาลแพ่ง?? แล้วทำไมถึงหักค่าจ้างเอามาชำระหนี้ไม่ได้?? ลองทายกันในใจก่อนที่จะเฉลย 🤔🤔 การที่นายจ้างให้เงินส่วนตัวลูกจ้างในการกู้ยืมโดยมีกำหนดระยะเวลาชัดเจนในการคืนเงินมีดอกเบี้ยที่แน่นอน เมื่อลูกจ้างผิดนัดชำระ “นายจ้างไม่สามารถหักเอากับค่าจ้างของลูกจ้างได้” เพราะอะไรนะรึ เราขออธิบาย ดังเน๊ 1.นายจ้างให้ลูกจ้างกู้ยืม เป็นการส่วนตัวและมีดอกเบี้ยนั้น แม้ลูกจ้างจะผิดนัดชำระหนี้ “นายจ้างก็จะหักค่าจ้างมาชำระหนี้ไม่ได้” เพราะ พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 76 กำหนด “กฎหมายห้ามมิให้นายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด” เว้นแต่เป็นการหักเพื่อ… (3) ชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือสหกรณ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันกับสหกรณ์ออมทรัพย์หรือหนี้ที่เป็นไปเพื่อสวัสดิการที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้างฝ่ายเดียวโดยได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากลูกจ้าง… ดังนั้น จากข้อยกเว้นข้างต้น จะเห็นได้ว่าหากหนี้ที่เป็นไปเพื่อสวัดิการที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้างฝ่ายเดียว และลูกจ้างให้ความยินยอม นายจ้างก็หักค่าจ้างได้ แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้คือ นายจ้างให้ลูกจ้างกู้ยืมเงินส่วนตัวแถมมีดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ลูกจ้างฝ่ายเดียว และเป็นเงินส่วนตัวของนายจ้างอีกไม่ได้เป็นเงินของบริษัท ต่อให้ลูกจ้างยินยอมให้หัก ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะผิดข้อกฎหมายตามที่กล่าวไปเบื้องต้นนายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวน ส่วนการแก้ไขปัญหาของนายจ้างรายนี้เมื่อทวงก็ไม่ได้ หักเงินก็ไม่ได้ เงินเดือนออกทีไร​ ต่อให้ไปรอหน้าตู้ให้พนักงานกดมาให้เลย กลับปรากฏว่าพนักงานโอนเข้าบัญชีอื่นไปแล้วเรียบร้อย จะให้ออกโดยไม่มีความผิดก็เสียค่าชดเชยอีก จึงจำเป็นจะต้องมาใช้สิทธิ์ทางศาลแพ่งต่อไป ใครที่มีปัญหาหนี้สินอยู่ในช่วงนี้ หากเป็นไปได้ ลองเจรจากับเจ้าหนี้ดูนะคะขอให้การขึ้นศาลเป็นทางออกสุดท้ายนะคะ ด้วยรักและห่วงใย

เลิกจ้างโดยอ้างว่า ผลงานไม่ดี แบบนี้ฟ้องได้ไหมคะ

เลิกจ้างโดยอ้างว่า ผลงานไม่ดี แบบนี้ฟ้องได้ไหมคะ ในระบบการทำงาน แน่นอนว่าในแต่ละบริษัทย่อมต้องมีการกำหนดเกณฑ์การประเมินผลงาน เพื่อที่จะได้พิจารณาว่าศักยภาพในการทำงานของลูกจ้าง ว่าทำงานมีประสิทธิภาพหรือไม่หากทำงานไม่ได้ตามเกณฑ์ที่นายจ้างกำหนด นายจ้างก็อาจจะต้องเลิกจ้าง แต่มีแฟนเพจรายนึง บอกว่า เกณฑ์การประเมินนายจ้างไม่เคยแจ้ง ไม่ชัดเจน กรณีนี้ ถือว่าเลิกจ้างไม่เป็นธรรมไหม สำหรับประเด็นเรื่องถูกเลิกจ้างเพราะไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินผลการทำงาน จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมได้หรือไม่นั้น ประเด็นนี้ก็เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะหากนายจ้างประเมินโดยไม่เป็นธรรม อยากคัดคนออกจึงประเมินให้คะแนนต่ำๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ดี เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม มีหลักพิจารณา ด้งนี้ค่ะ 1. ลูกจ้างในตำแหน่งเดียวกัน สายงานเดียวกัน ต้องใช้หลักเกณฑ์การประเมินเดียวกัน ไม่ใช่ไม่พอใจคนไหนก็จะแกล้งประเมินไม่ผ่านเพื่อที่จะเลิกจ้าง อันนี้ไม่ได้นะคะ ต้องระวัง 2. นายจ้างต้องให้เหตุผลได้ว่า ลูกจ้างไม่ผ่านเกณฑ์เพราะอะไร และเหตุนั้นถึงขนาดหรือจำเป็นจนจะต้องเลิกจ้างหรือไม่ เช่น ลูกจ้างทำงานผิดพลาด เป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง อันนี้ผู้เขียนเห็นว่าประเมินให้ไม่ผ่านเกณฑ์และเลิกจ้างได้ แต่ถ้าไม่ร้ายแรงอันนี้ก็ต้องมีหนังสือเตือน และให้โอกาสลูกจ้างได้พัฒนาหรือปรับปรุงตัวเองจะเลิกจ้างเลยไม่ได้ (มีแนวคำพิพากษาของศาล ตามฎีกาที่ 2832-2833/2546 พิจารณาว่า การที่นายจ้างกำหนดหลักเกณฑ์ประเมินผลการปฏิบัติงาน และประเมินว่าลูกจ้างมีคะแนนต่ำสุดของหน่วยงาน โดยไม่ปรากฎว่าลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้ดี หรือทำงานให้กับนายจ้างได้รับความเสียหายหรือไม่ปรากฏว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเลิกจ้าง จึงไม่มีเหตุอันสมควรและเพียงพอถึงขนาดที่นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้าง) 3. ถ้าเลิกจ้างโดยอ้างว่าผลงานไม่ดี แม้จะทำงานไม่มีประสิทธิภาพอยู่บ้างแต่ถ้ายังอยู่ในเกณฑ์ ถือเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม เทียบเคียงคำพิพากษาตามฎีกาที่...

สรุป 10 เรื่องที่ลูกจ้างไม่รู้และต้องรู้

สรุป 10 เรื่องที่ลูกจ้างไม่รู้และต้องรู้ สัญญาจ้างทำด้วยวาจาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือ 2. กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกจ้างทำงานต่อเนื่องการครบ 120 วันและนายจ้างประสงค์เลิกจ้างโดยลูกจ้างไม่มีความผิดนายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามมาตรา 118 3. แม้นายจ้างไม่พอใจผลการทดลองงานและต้องการเลิกจ้าง ก็ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า เว้นแต่ลูกจ้างทำผิดตาม ม.119 4. ไม่ว่าจะเลิกจ้างด้วยเหตุใดนายจ้างมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการทำงานให้แก่ลูกจ้างและในหนังสือรับรองการทำงานต้องไม่มีข้อความที่ไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้าง 5. ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 1 ปีมีสิทธิลาพักร้อนได้ปีหนึ่งไม่ น้อยกว่า 6 วันทำงาน กรณีนายจ้างประสงค์จะให้มากกว่า 6 วันก็ได้ แต่ให้น้อยกว่าไม่ได้) 6. กรณีทำงานยังไม่ครบ 1 ปี นายจ้างจะให้วันลาพักร้อนโดยเฉลี่ยตามสัดส่วนก็ได้ 7. การสะสมวันลาพักร้อนเพื่อนำไปใช่ในปีถัดไปเป็นสิทธิที่ นายจ้างจะให้ลูกจ้างหรือไม่ก็ได้ 8. นายจ้างไม่มีสิทธิเรียก รับ หลักประกันการทำงาน หรือหลักประกันความเสียหายในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือทรัพย์สิน อื่น หรือการค้ำประกันด้วยบุคคล เว้นแต่ สภาพของงานที่ลูกจ้างทำนั้นเกี่ยวข้องกับเงิน หรือทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจทำให้ เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้ เช่น พนักงานบัญชี หรือมีหน้าที่รักษาทรัพย์แทนนายจ้าง เป็นต้น 9....

มนุษย์เงินเดือน เกษียณแล้วจะได้เงินอะไรบ้าง?

มนุษย์เงินเดือน เกษียณแล้วจะได้เงินอะไรบ้าง? 1) เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน : การเกษียณจากการทำงานถือเป็นการเลิกจ้างอย่างหนึ่งนายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้างตามที่กฎหมายกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 118 กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างในกรณีที่เลิกจ้างซึ่งรวมถึงกรณีเกษียณอายุด้วย จะได้เท่าไหร่ก็ดูจากอายุงาน ถ้านายจ้างไม่จ่ายให้ติดต่อพนักงานตรวจแรงงานท้องที่ที่ทำงาน 2) เงินชราภาพจากประกันสังคม : โดยสิทธิที่จะได้รับจะเกิดขึ้นเมื่อเกษียณอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป และไม่ได้เป็นผู้ประกันตนของประกันสังคมแล้ว สามารถติดต่อรับเงินได้ภายใน 2 ปี 3) เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ : ต้องยื่นคำขอหรือลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร หรือที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านก่อน

ยังไม่ผ่านทดลองงาน แล้ว..ลาป่วย นายจ้างหักเงินได้ด้วยเหรอ

คำถามจากแฟนเพจที่ว่าในช่วงระหว่างการทดลองงานลูกจ้างมีอาการเจ็บไข้​ จำเป็นต้องหยุดงานแต่นายจ้างแจ้งว่าต้องหักเงินค่าจ้างในวันที่ลาป่วยออกเนื่องจากยังไม่ผ่านช่วงทดลองงาน​ แบบนี้สามารถทำได้หรือไม่​?? เพจคลินิกกฎหมายแรงงานมีคำตอบฮะ 1.​ การลาป่วย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 32 กำหนดไว้ว่า “ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง การลาป่วยตั้งแต่สามวันทำงานขึ้นไปนายจ้างอาจให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองของแพทย์แผนปัจจุบัน.. 2.พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 57 มีท่อนนึงกล่าวว่า “บริษัทต้องจ่ายค่าจ้างให้พนักงานในวันที่ลาป่วยเท่ากับอัตราค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลาป่วย แต่ปีหนึ่งต้องไม่เกินสามสิบวัน” ดังนั้น​ หากพิจารณาจาก​ 2​ มาตราข้างต้นแล้ว​ แม้จะอยู่ในข่วงทดลองงานลูกจ้างก็มีสิทธิได้รับเงินค่าจ้างในช่วงที่ลาป่วยค่ะ​ 🚩 …แต่… นายจ้างเองก็มีสิทธินำเอาอาการป่วยไข้ที่เกิดขึ้นบ่อย​ มาประเมินเป็นเหตุที่หย่อนสมรรถภาพและทำให้ไม่ผ่านการทดลองงานก็เป็นได้​ ซึ่งหลักเกณฑ์การประเมินดังกล่าวก็ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใดนะคะ เข้าใจเอาไป​ปรับใช้ให้ถูกต้อง​ ลดปัญหาข้อพิพาทแรงงานนะคะ​ 🥰