กฎหมายกฏหมายแรงงาน“มาทำงานก็อาจไม่ได้ตังค์ ลาออกไปซะดีกว่า” พูดแบบนี้ถือว่าบีบออกหรือไม่ ?
“มาทำงานก็อาจไม่ได้ตังค์ ลาออกไปซะดีกว่า” พูดแบบนี้ถือว่าบีบออกหรือไม่? ช่วงนี้มีคนเล่า พฤติการณ์ต่างๆให้ฟังเยอะมากว่าแบบนี้ถือว่าบีบออกหรือเปล่า ต้องขอเรียนตามตรงค่ะหลายๆครั้งคำว่าบีบออกไม่ได้ มีคำนิยาม ตายตัวตรงตัวเป๊ะๆตามกฎหมาย ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะถือว่าบีบออก จึงต้องพิจารณา จากข้อเท็จจริงในแต่ละรายและแต่ละเรื่องไปที่สำคัญพิจารณาจากข้อมูลของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงไม่สามารถตอบฟังธง เป๊ะ โช๊ะ โด๊ะ เด๊ะ ให้ท่านได้ในทันที ดั่งใจท่านหมาย เลยอาจจะสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้แก่ท่านผู้สอบถามบ้าง แต่ก็ไม่ขออภัย เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เพราะว่าคำถามมันเป็นประโยชน์เลยขอเอามาตอบหน้าเพจโดยการเทียบเคียงกรณีต่างๆที่ลูกจ้างเข้าใจว่าเป็นการบีบออกแต่ศาลวินิจฉัยว่าไม่ใช่มาให้ท่านทั้งหลายฟัง เผื่อว่าจะเกิดประโยชน์และจะทำให้ใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจลาออกได้ถี่ถ้วนยิ่งขึ้น ได้คำพิพากษาที่จะนำมาเล่าในวันนี้ก็คือ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 622-623/2564 พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน มาตรา 118 วรรคสอง บัญญัติว่า การเลิกจ้างตามมาตรานี้ หมายความว่าการกระทำใดที่นายจ้าง “ไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไป+ไม่จ่ายค่าจ้างให้” ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือเหตุอื่นใด และหมายรวมถึง กรณีที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้างเพราะเหตุที่นายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไป ดังนั้น ในความหมายของการเลิกจ้างดังกล่าวข้างต้น จะต้องเป็นกรณีที่นายจ้างต้องกระทำการใดที่ไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ การที่นาย ฤ. ผู้จัดการบริษัท พูดว่าเดือนพฤศจิกายนนี้ น่าจะได้รับค่าจ้างครั้งสุดท้ายและเดือนธันวาคจะไม่ได้รับค่าจ้าง ใครอยู่ก็ได้แต่ไม่ได้เงินใครไม่อยู่ให้ไปหางานทำ บริษัท ยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าให้กับเจ้าของตึก แถมมีภรรยาผู้จัดการพูดเสริมมาอีกว่า “ไม่ต้องมาทำงานแล้วไม่ได้เงินเดือน ดีกว่ามาทำงาน แต่ไม่ได้เงินเดือนจะเสียความรู้สึกกัน” แล้วฟางมาถึงท่อนนี้หลายคนอาจคิดว่า นี่แหละบีบออก!!...