กรุณารอสักครู่

 

HomeCategoryกฎหมายครอบครัว Archives - Page 7 of 11 - บริษัท ลีกัล คลินิก แอนด์ เอดดูเคชั่น จำกัด

ให้กู้ยืมเงิน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องคดีได้หรือไม่?

ให้กู้ยืมเงิน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องคดีได้หรือไม่ เอาหลักกฎหมายก่อนเนอะ หลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 กำหนดว่า กู้ยืมเงินกว่า 2,000 ขึ้นไปนั้น ถ้าไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องไม่ได้ “ แต่ “ ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำแบบนี้ เงินเฟ้อขนาดนี้ บางทียืมหลักพันไม่มีใครมานั่งเซนสัญญา จึงเกิดเป็นความสงสัยว่าแล้วแบบนี้จะเอาหลักฐานอะไรไปฟ้อง?? ใครคิดแบบนี้อยู่ไม่ต้องกังวล เพราะพรบ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาตรา 8 กำหนดว่า “รณีที่กฎหมายกําหนดให้การใดต้องทํา เป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดง ถ้าได้มีการจัดทําข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึง และนํากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนั้นได้ทําเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดงแล้ว” ดังนั้นหากท่านมีหลักฐาน ข้อความสนทนา การคุยกู้ยืม สลิปการโอน ก็สามารถฟ้องคดีได้เช่นกันค่ะ และสำหรับใครที่มีปัญหาด้านกฎหมายต้องการติดต่อหาทนายความเพื่อดำเนินการใช้สิทธิ์เรียกร้องตามกฏหมาย หรือแม้แต่ขั้นตอนการสืบบุคคล สืบทรัพย์สินก็สามารถติดต่อได้ที่ info@legalclinic.co.th #ที่ปรึกษากฎหมาย #กู้ #กู้เงิน #หนี้สิน #ฟ้อง #ทนายความ #หนี้ #ฟ้องร้อง #สืบทรัพย์ #สืบก่อนแต่ง...

เจ้าหนี้ต้องรู้ โพสประจานลูกหนี้มีสิทธิถูกปรับหลักแสน!!

เจ้าหนี้ต้องรู้ โพสประจานลูกหนี้มีสิทธิถูกปรับหลักแสน!! อ่านแค่หัวเรื่องก็ร้องโอ้ยยยย กันแล้ว ทำไมจะด่า จะประจานคนที่ยืมเงินแต่ไม่คืนเงินไม่ได้ ไม่เข้าใจเลย เรื่องนี้ หลักกฎหมายอธิบายไว้แบบนี้ค่ะ แม้จะยืมจริง ไม่คืนจริง แถมใช้ชีวิตหรูหรา แต่หากเจ้าหนี้ โพสประจานโดยระบุตัลุกหนี้ชัดเจน เผลอๆโพสยันหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริง และข้อความที่โพสทำให้ลูกหนี้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง แม้เป็นเรื่องจริง ก็อาจจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาท และหนักไปกว่านั้น ถ้าการโพสต์ข้อความใน socail ที่มีเข้าถึงได้เป็นจำนวนมาก ก็อาจมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท อ่านมาถึงตรงนี้อาจคิดว่าไม่เป็นธรรมกับคนให้กู้เลย อันนี้เจ้าหนี้ต้องคิดให้ดีไม่ใช่แค่ก่อนโพส แต่ต้องคิดก่อนให้ใครกู้หรือหยิบยืมด้วย ว่าเค้ามีความสามารถในการชำระหรือไม่ คิดง่ายๆเอ็นดูเขา เอ็นเราขาดนะคะ และสำหรับใครที่มีปัญหาด้านกฎหมายต้องการติดต่อหาทนายความเพื่อดำเนินการใช้สิทธิ์เรียกร้องตามกฏหมาย หรือแม้แต่ขั้นตอนการสืบบุคคล สืบทรัพย์สินก็สามารถติดต่อได้ที่ info@legalclinic.co.th

ฟ้องชู้ต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ?

ฟ้องชู้ต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ? ก่อนอื่นเลยจะฟ้องชู้ได้ สิ่งที่ต้องมีคือ “ทะเบียนสมรส” หลายคนถามมาว่า ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่มีรูปถ่ายงานแต่งนะคะ ลูกเต้าด้วยกันก็มีหมด ซึ่งส่วนนี้ต้องชี้แจงก่อนว่า การที่จะเป็นสมีภรรยากันแบบที่ให้ฟ้องได้ ต้องมีผลผูกพันทางทะเบียน มีกฎหมายรับรองเท่านั้น ส่วนใครที่มีทะเบียนสมรสแล้วอยากฟ้องชู้ สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้ 1.ใบสำคัญการสมรส ภาพถ่ายงานแต่ง ความสัมพันธ์หวานชื่นก่ออนมีชู้ 2.ใบสูติบัตร หากมีบุตร (หลักฐานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุตรให้เอามาด้วย) 3.พยานภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปเสียง หรือข้อความที่แสดงว่า สามี หรือภรรยา ของท่านได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับบุคคลนั้นว่าเปิดเผยอย่างไร แค่ไหน นานแค่ไหน 4.พยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าชู้ ได้รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงที่ตนคบชู้หรือล่วงเกินนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว 5.วุฒิการศึกษา สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงรายได้ 6.หลักฐานที่แสดงฐานะทางสังคม เช่น หากเป็นผู้นำชุมชน เป็นผู้นำกิจกรรม เป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก ก้ให้นำมาด้วย ส่วนจะได้เท่าไหร่นั้นศาลจะพิจารณา “ตามสมควรแห่งพฤติการแห่งคดี” ซึ่งพอบอกแบบนี้หลายคนร้องโอ้ยยยย พฤติการแห่งคดี คืออะไรก่อน อย่าเพิ่งโอ้ย..เดี่ยวเล่าให้ฟัง ตามสมควรแห่งพฤติการแห่งคดี ในที่นี้หมายถึง ฐานะทางสังคม หน้าที่การงาน เงินเดือน การศึกษา ชื่อเสียง...

ชอบก๊อปต้องรู้ ก๊อปบทความ ดูดภาพ ดูดคลิป แม้ให้เครดิตก็อาจผิดกฎหมาย

ชอบก๊อปต้องรู้ ก๊อปบทความ ดูดภาพ ดูดคลิป แม้ให้เครดิตก็อาจผิดกฎหมาย ในปัจจุบัน มีหลายช่อง หลายเพจ เอาคลิปคนอื่นมาลง สร้างคอนเท้น สร้างรายได้ และบอกว่า ขอบคุณภาพจาก XXX ต่างๆ แบบนี้อย่างคิดว่ารอดนะคะ เพราะการนำผลงานภาพของภาพ บทความของคนอื่นมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน แม้ว่าผู้นำมาเผยแพร่จะมีการให้เครดิต ก็เสี่ยงมีความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์ สิ่งที่ควรทำให้ถูกต้องคือการขออนุญาต เพราะหากบทความหรือรูปภาพเป็นงานลิขสิทธิ์ การนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการก๊อบปี้หรือแชร์ต่อ นั้นต้องพิจารณาประกอบกับเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้เนื้อหาของเว็บไซต์นั้นๆ ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด เช่น ถ้านำมาใช้ในปริมาณน้อย เช่น 1 ถึง 2 ภาพที่ไม่ได้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ (economic value) อย่างมีนัยสำคัญ และไม่ได้เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไรโดยมีการแสดงที่มาของบทความหรือรูปภาพ ก็อาจถือว่าเป็นการใช้งานลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม (fair use) ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ถ้าก๊อปมาปริมาณมากมีการสร้างรายได้ แบบนี้เสี่ยงมีความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์ สิ่งที่ควรทำให้ถูกต้องคือการขออนุญาตเจ้าของบทความหรือรูปภาพก่อนนะคะ และสำหรับใครที่มีปัญหาด้านกฎหมายต้องการติดต่อหาทนายความเพื่อดำเนินการใช้สิทธิ์เรียกร้องตามกฏหมาย หรือแม้แต่ขั้นตอนการสืบบุคคล สืบทรัพย์สินก็สามารถติดต่อได้ที่ info@legalclinic.co.th #ที่ปรึกษากฎหมาย #ทนายความ #สืบทรัพย์ #สืบก่อนแต่ง #นำยึด #วิทยากรสอนกฎหมาย #วิทยากรอารมณ์ดี

ถ้าผู้จัดการมรดก โอนทรัพย์มรดกมาเป็นของตนเองและจำหน่ายให้บุคคลภายนอก ผู้รับซื้อไว้ต้องคืน!!

ถ้าผู้จัดการมรดก โอนทรัพย์มรดกมาเป็นของตนเองและจำหน่ายให้บุคคลภายนอก ผู้รับซื้อไว้ต้องคืน!! โดยหลักแล้วหากผู้ที่รับโอนซื้อไปโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนผู้รับโอนย่อมมีสิทธิ์ในทรัพย์นั้นแต่ไม่ใช่กับประเด็นนี้ในกรณีที่ผู้จัดการมรดกโอนทรัพย์มรดกมาเป็นของตนแต่เพียงคนเดียวและทำการจำหน่ายจ่ายโอนโดยที่ทายาทไม่รู้เห็นยินยอมการทำนิติกรรมดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันทายาทผู้มีสิทธิ์รับมรดก คำพิพากษาฎีกาที่ 814 / 2554 ช. ทำพินัยกรรมยกที่ดินพิพาทให้แก่อ. เมื่อช. ตายที่ดินพิพาทตกเป็นของอ. ต่อมาอ. ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินของตนทั้งหมดให้แก่โจทก์ทั้งห้า เมื่ออ. ตายที่ดินพิพาทตกเป็นของโจทก์ทั้งห้า แม้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งจำเลยที่หนึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของช. จำเลยที่หนึ่งก็เพียงแต่มีอำนาจจัดการทรัพย์มรดกของช. แทนทายาททุกคนเพื่อแบ่งปันซับมรดกแก่ทายาททุกคนไม่มีสิทธิ์นำที่ดินพิพาทที่ตกเป็นของโจทก์ทั้งห้าไปขาย โดยทายาทผู้ได้รับมรดกไม่ยินยอมการที่จำเลยที่หนึ่งนำที่ดินพิพาทไปขายให้แก่จำเลยที่สองโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ทั้งห้าแม้จำเลยที่สองจะซื้อที่ดินโดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้วก็ตามจำเลยที่สองก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามหลักที่ว่าผู้รับโอนไม่มีสิทธิ์ดีกว่าผู้โอนโจทก์ทั้งห้าย่อมมีสิทธิ์ฟ้องเรียกคืนที่ดินพิพาทอันเป็นการใช้สิทธิ์ติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินจากผู้ไม่มีสิทธิ์ยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 #ทนายความ #สืบทรัพย์ #สืบก่อนแต่ง #นำยึด #วิทยากรสอนกฎหมาย #วิทยากรอารมณ์ดี

ไม่จ่ายค่าเช่า ผู้ให้เช่างัดเข้าไปยกของออกมากองไว้หน้าห้องได้ไหมนะ??

ไม่จ่ายค่าเช่า ผู้ให้เช่างัดเข้าไปยกของออกมากองไว้หน้าห้องได้ไหมนะ?? อันนี้ต้องรีบบอกเลยนะคะสำหรับผู้ให้เช่ามือใหม่อย่าเข้าใจว่าเรามีสิทธิ์ทำได้นะ ผู้ให้เช่าส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าอันนี้มันเป็นกรรมสิทธิ์ของฉันฉันเข้าได้อยู่แล้วใช่ค่ะไม่เถียงบ้านเรือนนั้นอาจจะเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณแต่ในระหว่างที่เค้าเช่าอยู่แถวมีสิทธิครอบครองดังนั้นเมื่อเขาผิดสัญญาเช่าจึงเป็นการผิดสัญญาทางแพ่งผู้ให้เช่าไม่สามารถเปิดห้องงัดห้องเข้าไปและไปขนของผู้เช่าออกมากองไว้หน้าห้องนะคะ เล่นให้พูดตามหลักกฏหมายว่าเป็นความผิดส่วนใดนั้น ต้องแจ้งให้ทราบว่าการบุกรุก รบกวนการครอบครองของผู้เช่า มีความผิดทางอาญา ตามมาตราที่ 362 โดยมีอัตราโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งรวมไปถึงการล็อกกุญแจห้ามไม่ให้ผู้เช่าเข้าไปในห้องอีกอันนี้ก็เป็นความผิดในฐานเดียวกันค่ะ ดังนั้นก่อนจะให้ใครเช่าห้องการพิจารณาประวัติและคัดเลือกผู้เช่ารวมถึงการร่างสัญญาเช่าให้รัดกุมและให้มีหลักประกันในการเช่าก็จะช่วยเซฟผู้ให้เช่าได้นะคะสำหรับผู้ให้เช่ารายใดที่ต้องการทำสัญญาเช่าหรือการปรึกษาทางกฏหมายต้องการติดต่อหาทนายความเพื่อดำเนินการใช้สิทธิ์เรียกร้องตามกฏหมาย หรือแม้แต่ขั้นตอนการสืบบุคคล สืบทรัพย์สินก็สามารถติดต่อได้ที่ info@legalclinic.co.th

กินแล้วชักดาบมีสิทธิ์ติดคุก !!

กินแล้วชักดาบมีสิทธิติดคุก!! หลายท่านอ่านหัวข้อนี้ก็เข้าใจทันทีเพราะเพิ่งจะมีข่าวไปไม่นานนี้กับกรณีที่มีลูกค้ารายหนึ่งสั่งอาหารทานและไม่จ่ายแล้วทำแบบนี้กับหลายร้าน จึงมีประเด็นคำถามขึ้นว่า นอกจากทางร้านจะเรียกเก็บเงินทางร้านมีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีอย่างไรบ้างมาฟังกันนะคะ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 345 บัญญัติว่า ใครที่สั่งซื้อและบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม หรือเข้าอยู่ในโรงแรม โดยรู้ว่าตนไม่สามารถชำระเงินค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม หรือค่าอยู่ในโรงแรมนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนี้แล้วกินเท่าที่มียินดีในความเป็นอยู่อย่าไปหลอกไปรวงสั่งซื้อหรือเขาอยู่ในที่ที่เกินข้อจำกัดด้านการเงินของเราเลยค่ะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองแล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นด้วย

จะรู้ได้ยังไงว่าแอพที่เรายืมเงินคือมิจฉาชีพ !!

จะรู้ได้ยังไงว่าแอพที่เรายืมเงินคือมิจฉาชีพ!! แฟนเพจหลายท่านนะคะถามเข้ามาว่าในช่วงที่ชักหน้าไม่ถึงหลังแบบนี้ก็ไปยืมเงินนอกระบบมาจากแอพพลิเคชั่นหนึ่งมีการติดต่อประสานงานผ่าน LINE โดยแฟนเพจก็ให้ข้อมูลส่วนตัวไปมากมายเพื่อใช้ทำสัญญากู้จนถึงขั้นตอนสุดท้าย บุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ก็บอกว่าการกู้สำเร็จแล้วแต่ผู้กู้จะต้องโอนเงินค่าดอกเบี้ยจ่ายไปก่อน ไม่ก็บอกว่าหากไม่มีผู้ค้ำจะต้องถูกหักก่อนเป็นจำนวนเงินจำนวนนึง เมื่อผู้กู้ตกใจไม่อยากโอนเงินไปก็บอกว่ามีค่าดำเนินการหากไม่โอนมาจะใช้สิทธิ์ฟ้องร้องตามกฎหมายมั้ย หนูกลัวติดคุก หนูกลัวถูกยึดทรัพย์ หรือบางรายหนักกว่านั้นผู้กู้หลงเชื่อโอนเงินดอกเบี้ยไปก่อนแต่ก็ไม่มีเงินกู้เข้ามาในบัญชีแบบนี้ทำอย่างไรได้บ้าง 1. อย่างแรกเลยนะคะถ้ามิจฉาชีพขู่จะฟ้องร้องกรณีที่เราไม่โอนเงินค่าดอกเบี้ย ไม่โอนค่าดำเนินการเข้าไป.. ไม่ต้องเชื่อค่ะเพราะเขาคือมิจฉาชีพ ไม่ต้องสนใจใดใดทั้งนั้น 2. แจ้งความด้วยน้ำหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่นหน้าจอ LINE ที่แชทคุยกันเลขบัญชีที่ให้เราโอนเงินไปนำเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ และถ้าอยากให้ตอบแบบข้อกฎหมายทนอ่านนิดนึงนะคะเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง 1.การกู้ยืมมีองค์ประกอบ 2 ประการ คือ หากกู้เกิน 2000 บาทต้องมีการทำสัญญาหรือมีหลักฐานอื่นๆ เช่นไลน์ “และ” ต้อง “มีหลักฐานการส่งมอบเงินที่กู้ยืม” 2. การกู้ยืมเป็นคดีแพ่งค่ะไอ้เรื่องหูว่าจะแจ้งความให้ติดคุกแค่พูดมามันก็มั่วแล้วไม่ต้องไปเชื่อ เคยแนะนำไปแบบนี้ แต่เจอแฟนเพจถามกลับมาว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคนนั้นเป็นมิจฉาชีพจริงๆเค้าอาจจะเป็นแอพเงินกู้จริงๆก็ได้หนูกังวลมากเลย… ลองดูการกู้เงินในระบบนะคะมันไม่ได้ง่ายแค่มีบัตรประชาชนแล้วให้กู้ได้เลย หรือแม้แต่กู้นอกระบบเค้ายังต้องมีการค้ำประกันหรือเป็นคนที่ได้มาเจอกันจริงๆเป็นหลักเป็นแหล่งเลยไม่ใช่แค่ผ่านแอพอย่างแน่นอน อยากจะบอกว่าเวลาทนายแนะนำเนี่ยไม่เชื่อแต่คุยกับมิจฉาชีพดันเชื่ออันนี้ทนายเองก็น้อยใจนะคะ ทนายอาจจะพูดแรงนิดนึงนะแต่นี่ก็เพื่อประโยชน์ของตัวเองท่านเอง …. สังคมออนไลน์หรือโซเชียลเนี่ยนอกจากมีไว้เพื่อความบันเทิงใจไว้อ่านข่าวสาร หากยังมีตังเติมอินเตอร์เน็ตอยู่ ก็หาอ่านอะไรที่เป็นประโยชน์บ้างนะคะจะจากเพจไหนก็ได้ดู Pages ที่เป็นความรู้รอบรอบตัวยาเสพติดแต่คอนเทนท์คลายเครียดมันเติมความรู้บ้างจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อค่ะ สุดท้ายนี้ก็หวังว่าจะไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพนะคะ

อัดวีดีโอแทนการเขียนพินัยกรรมสามารถทำได้หรือไม่ ?

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนไป หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าการอัดวิดีโอก็สะดวกดี และก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วยว่าผู้ทำพินัยกรรมแสดงเจตนานั้นไว้อีกจริงๆ ไม่ต้องไปพิสูจน์ลายมือชื่อกันอีก จึงเกิดคำถามว่าการอัดวีดีโอแทนการเขียนพินัยกรรมสามารถทำได้หรือไม่และจะมีผลทางกฎหมายหรือเปล่า Find my lawyer ตอบคำถาม คลายข้อสงสัยในใจ ดังนี้ แบบของพินัยกรรม มี 5 แบบ คือ 1. พินัยกรรมแบบธรรมดา (อ้างอิงตามป.พ.พ. มาตรา 1656) 2. พินัยกรรมเขียนเองทั้งฉบับ (อ้างอิงตามป.พ.พ. มาตรา 1657) 3. พินัยกรรมทำเป็นเอกสารฝ่ายเมือง (อ้างอิงตามป.พ.พ. มาตรา 1658) 4. พินัยกรรมทำเป็นเอกสารลับ (อ้างอิงตามป.พ.พ. มาตรา 1660) 5. พินัยกรรมทำด้วยวาจา (อ้างอิงตามป.พ.พ. มาตรา 1663) จากแบบของพินัยกรรมตามที่กฎหมายกำหนดข้างต้นจะเห็นได้ว่ามีเพียง 5 แบบ เท่านั้น แต่ละแบบมีวิธีการรายละเอียดในการบริการแตกต่างกันไป (เดี๋ยววันหลังจะมาขยายความให้ฟังในแต่ละแบบนะคะ) ดังนั้นจึงสามารถตอบคำถามได้เลยว่าการอัดวิดีโอแทนการทำพินัยกรรมนั้น “ ไม่มีผลทางกฎหมาย“ ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงเจตนาก่อนตายเพราะผู้ทำพินัยกรรมว่านายกทรัพย์สินให้กับใครบ้างและเพื่อให้พินัยกรรมนั้นมีผลตามการแสดงเจตนานั้น จึงต้องเลือกทำพินัยกรรมแบบใดแบบหนึ่งข้างต้นค่ะ

การไกล่เกลี่ย ก่อนฟ้อง-หลังฟ้อง ต่างกันอย่างไร

การไกล่เกลี่ยเกิดขึ้นได้ทั้งก่อนไปศาลและในชั้นศาล แต่ก็มีความแตกต่าง ส่งนแตกต่างกันอย่างไรนั้น ลองดูตามภาพเลยนะคะ