นายจ้างอ้างว่าขาดทุน “ให้เขียนใบลาออกหรือย้ายไปทำงานที่บริษัทอื่น” เจอแบบนี้ควรทำยังงัย
อีกสักรอบกับคำถามนี้ ในเมื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านทนายคนสวยใจดีก็มีหน้าที่ต้องตอบให้ กับคำถามที่ว่า….
“พี่ทนายคนสวยคะ (อันนี้พูดเอง) นายจ้างอ้างว่าขาดทุน ให้เลือกทางเลือกมา 2 ช่องทาง คือ ให้เขียนใบลาออกหรือ ย้ายไปทำงานที่บริษัทอื่น แบบนี้หนูควรทำยังไงดี??
คนงามทรามวัย ขอแยกตอบเป็นประเด็น ดังนี้ค่ะ
1.เขียนใบลาออก กรณีนี้ หากลูกจ้างไม่ประสงค์ลาออก แต่เป็นการบีบบังคับ ขู่เข็ญ หลอกลวง ก็ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ที่นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย นายจ้างจะมาอ้างว่าขาดทุนแล้วมาบีบบังคับให้ลูกจ้างเขียนใบลาออกไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่าหากเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย ส่วนจะจ่ายเท่าไหร่ก็ดูตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.118
แต่ถ้าหากว่าขาดทุนจริง แนะนำว่านายจ้างควรจะพูดคุยและทำความเข้าใจกับลูกจ้าง ว่ากิจการมีความจำเป็นต้องเลิกจ้างเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ยังไงนายจ้างก็ต้องจ่ายค่าชดเชยอยู่ดี เพราะลูกจ้างก็ต้องมีเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในการตั้งต้นหางานใหม่ และ อย่า!!! ไปบีบบังคับให้ลูกจ้างเขียนใบลาออก เพราะนายจ้างอาจถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้
2.ย้ายไปทำงานที่บริษัทอื่น กรณีนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนายจ้าง ที่จะต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง หากลูกจ้างไม่ยินยอมนายจ้างก็ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตาม ม. 13 ซึ่งหากลูกจ้างไม่ยอมย้ายไปตามคำสั่ง หากนายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุดังกล่าว นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าชดเชย เพราะไม่ถือว่าลูกจ้างผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง หรือ ละทิ้งหน้าที่ แต่อย่างใด
หวังว่าจะทำให้ผู้ถามได้รับคำตอบและหายค้างคาใจบ้างนะคะ และเช่นเคยสำหรับใครที่ไม่อยากจดจำ ไม่มีเวลาหาข้อมูล แต่มีคำถามในทางปฏิบัติมากมาย อยากหาทนายเคียงข้างธุรกิจ เป็นเพื่อนคู่คิดหรือเป็นมิตรคู่กาย ในการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายสักคน สามารถติดต่อมาได้ที่ info@legalclinic.co.th นะคะ
#คลินิกกฎหมายแรงงาน
#ที่ปรึกษากฎหมาย
#คดีแรงงาน #ทนายคดีแรงงาน
#วิทยากรกฎหมายแรงงาน
#วิทยากรสอนกฎหมาย
#วิทยากรPDPA
#วิทยากรอารมณ์ดี
#กฎหมายแรงงาน #การจ้างงาน #แรงงาน #กฎหมาย #นายจ้าง #ลูกจ้าง