เสพยาบ้าอยู่ที่บ้าน ถูกตำรวจจับ แต่ไม่ติดคุก แค่ต้งได้รับการฟื้นฟูนายจ้างเลิกจ้างได้ด้วยหรอ??
.
เป็นคำถามที่อ่านแล้วปวดหัวมากเลยนะคะ ไม่รู้จะเริ่มปวดหัวจากประเด็นไหนก่อนดี ระหว่างคำถามกับ Energy ของคนถามที่มาแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงบอกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม
.
ในกรณีที่ลูกจ้างเสพยาบ้าหรือยาเสพติดให้โทษจนถูกจับกุมนั้น หากในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานมีระบุไว้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นพฤติกรรมที่ร้ายแรง นายจ้างก็สามารถเลิกจ้างได้ แม้ผลการดำเนินคดีจะออกมาว่าไม่ต้องรับโทษจำคุก แต่ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดก็ตามก็ยังถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงที่นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
.
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะบริษัทมีข้อบังคับชัดเจนเกี่ยวกับการทำงานและระบุเรื่องยาเสพติดให้โทษไว้ประกอบกับผู้ที่ติดยาเสพติดให้โทษเหล่านี้เมื่อมาทำงานก็อาจจะมีอาการมึนเมาหรือมีพฤติกรรมความเสี่ยงที่จะเสพยาอยู่เรื่อยๆเมื่อนายจ้างกำหนดไว้ให้เป็นความผิดร้ายแรงนายจ้างจึงสามารถเลือกสร้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยค่ะ เรื่องแบบนี้เคยมีเกิดขึ้นเช่นกัน
ใครอยากลองอ่านไปหาฎีกาที่ 6924/57 ดูนะคะ
.
เอาจริงๆเลิกได้ก็เลิกเถอะมันไม่มีอะไรดีเลย
.
พักหลังๆมาเจอคำถามแบบนี้บ่อยมาก เช่น กินน้ำท่อม 4 x 100 นายจ้างเลิกจ้างได้ไหม หรือสูบกัญชานายจ้างเลิกจ้างได้หรือเปล่าเพราะถูกกฎหมายหมดแล้ว เอาจริงๆพวกยาเสพติดเหล่านี้อย่าไปเริ่มตั้งแต่แรกเลยค่ะ ไม่มีอะไรดีเลย เคยคุยกับพี่ต้อง แฟนเพจที่เคารพ ว่าทำไมลูกจ้างถึงเข้าใจว่าเมื่อมันถูกกฎหมายแล้วจะไม่ผิด โดยพี่ต้องเทียบเคียงให้เห็นชัดๆเลยว่าเมื่อก่อนเหล้าก็ผิดกฎหมายแต่เดี๋ยวนี้เล่าก็ถูกกฎหมายหมดแล้ว
.
แต่การดื่มสุราและมึนเมา เข้าไปในสถานที่ทำงานหรือสามารถทำงานได้ไม่เต็ม 100% เนื่องจากการ ดื่มสุราก็ยังเป็นความผิดร้ายแรงที่เลิกจ้างได้อยู่ อันนี้ก็อยากให้ลองเทียบเคียงกันดูนะคะ เราไว้ว่างๆจะมาเขียนให้ฟังใหม่เกี่ยวกับประเด็นกัญชาค่ะ