ผู้เช่าจะฟ้องขับไล่บุคคลภายนอกที่อาศัยอยู่ในทรัพย์สินที่เช่าได้หรือไม่ ?
เมื่อผู้เช่าทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์แล้ว
แต่ปรากฏว่ายังมีบุคคลภายนอกยังคงอาศัยอยู่ในที่ดังกล่าว
ผู้เช่าจะฟ้องขับไล่บุคคลภายนอกได้หรือไม่ ต้องพิจารณาดังนี้
1. กรณีที่ผู้เช่ายังไม่ได้เข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่า – ผู้เช่าจะไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่บุคคลภายนอกให้ออกจากทรัพย์ที่เช่าได้เนื่องจากผู้เช่ายังไม่ได้เข้าครอบครองทรัพย์ืจึงถือว่ายังไม่มีสิทธิครอบครอง การที่ผู้เช่าจะฟ้องขับไล่นั้นจะต้องเรียกผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม
เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2551 แม้โจทก์จะมีสิทธิใช้สอยตึกพิพาทในฐานะเป็นผู้เช่าตามสัญญาเช่า แต่โจทก์ก็ยังไม่เคยเข้าครอบครองตึกพิพาทตามสัญญาเช่ามาก่อน ที่จำเลยและบริวารอยู่ในตึกพิพาทก็โดยอาศัยสิทธิของ จ. ไม่ได้อาศัยสิทธิของโจทก์ การที่จำเลยและบริวารยังคงอยู่ในตึกพิพาทโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการละเมิดต่อเจ้าของตึกหาใช่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่ารายใหม่ไม่ จำเลยจึงไม่ได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์เนื่องจากโจทก์กับจำเลยต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกจากตึกพิพาทโดยลำพังได้
2. กรณีที่ผู้เช่าเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่าแล้ว – หากมีบุคคลภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับทรัพย์นั้น ผู้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่บุคคลภายนอกได้ด้วยตนเอง
เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2511 แม้สัญญาเช่าที่ดินระหว่างมารดาโจทก์กับกระทรวงศึกษาธิการจะระงับโดยเหตุที่มารดาโจทก์ถึงแก่กรรมก็ตาม แต่โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ ซึ่งตกทอดมาจากมารดาโจทก์ ดังนั้น เมื่อโจทก์ยังคงครอบครองที่พิพาทและต่อมาโจทก์ก็ได้ทำสัญญาเช่าที่พิพาทกับกระทรวงศึกษาธิการต่อไปอีกเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งขออาศัยมารดาโจทก์ปลูกบ้านในที่ดินบางส่วนของที่พิพาทได้ กระทรวงศึกษาธิการไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้แก่โจทก์อีก