แอบอัดเสียงไว้ก็ใช้เป็นพยานในชั้นศาลได้!!
หลายคนคงเคยได้ยิน หรือเข้าใจว่าการแอบบันทึกเทป บันทึกภาพเคลื่อนไหว หรือบันทึกเสียงในขณะที่มีการสนทนากัน โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้นั้น เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบ และนำไปใช้ในศาลไม่ได้
แต่อีกหลายคนที่เคยขึ้นศาลกลับบอกว่าได้สิ!! ฉันก็เคยใช้มาก่อน!! ซึ่งเป็นประเด็นที่น่า สนใจว่าสรุป การแอบบันทึกเทปภาพเคลื่อนไหวในขณะที่มีการสนทนากัน สามารถใช้เป็นประเด็นในชั้นศาลได้หรือไม่
FINDMYLAWYER ขอไขข้อข้องใจแบบนี้ค่ะ
กฎหมาย ป.วิ.อ. มาตรา 226 กำหนดว่า ห้ามศาลรับฟัง การแอบบันทึกเทปหรือภาพเคลื่อนไหวในขณะที่มีการสนทนากันจริง!!
แต่การห้ามดังกล่าว ห้ามนำมาใช้บังคับเฉพาะกรณีเจ้าพนักงานของรัฐที่แอบบันทึกเทป บันทึกภาพเคลื่อนไหว หรือบันทึกเสียงเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันมิให้เจ้าพนักงานของรัฐใช้วิธีการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบนั่นเอง
( แต่ก็มีข้อยกเว้นนะ ต่อให้เจ้าหน้าที่รัฐแอบบันทึกเทปบันทึกภาพเคลื่อนไหวจริง แต่หากศาลมองว่า หลักฐานนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมมากกว่าผลเสีย ก็สามารถนำหลักฐานมาใช้ได้)
ส่วนที่ประชาชนแอบบันทึกภาพ บันทึกภาพเคลื่อนไหวและเสียง หรือบันทึกเสียงอย่างเดียว ประชาชนยังสามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในศาลได้ ไม่ถือว่าเป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยไม่ชอบ