กรุณารอสักครู่

 

HomeAuthorทนายฝ้าย, Author at บริษัท ลีกัล คลินิก แอนด์ เอดดูเคชั่น จำกัด

นายจ้างหยุดพักร้อนน้อยกว่ากฎหมายกำหนดได้หรือไม่

นายจ้างหยุดพักร้อนน้อยกว่ากฎหมายกำหนดได้หรือไม่   สำหรับคำถามนี้มีคำตอบที่ชัดเจนแล้วใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา 64 กำหนดว่า “หากนายจ้างไม่จัดให้ลูกจ้างหยุดพักผ่อนประจำปี หรือให้หยุดน้อยกว่าขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด นายจ้างต้องรับผิดชอบจ่ายค่าทำงานในวันหยุดหากมีการทำงานล่วงเวลาต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างด้วย” ตัวอย่างเช่น นายจ้างมีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุว่า “พนักงานที่ทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งปีมีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่าปีละ 6 วันทำงาน โดยพนักงานจะได้รับค่าจ้างเท่ากับวันทำงานปกติและบริษัทเป็นผู้กำหนดวันหยุดให้แก่พนักงานล่วงหน้า” จึงเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่จะต้องกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง เช่น   หากนายจ้างมิได้กำหนดให้แม้ลูกจ้างมิได้แสดงความจำนงว่าจะขอลาหยุด นายจ้างก็ยังคงมีหน้าที่ที่จะต้องกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง การกำหนดวันหยุดนี้เป็นหน้าที่ของนายจ้างตามกฎหมาย โดยที่ลูกจ้างไม่จำเป็นต้องร้องขอ นายจ้างจึงต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง   จากตัวอย่างข้างต้น หากเปลี่ยนข้อเท็จจริงเป็นว่า นายจ้างกำหนดให้วันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างน้อยกว่าที่ขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด นายจ้างก็มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างให้ครบตามจำนวนวันที่กฎหมายกำหนด คือ 6 วันด้วย เช่น ตอนแรกนายจ้างกำหนดไว้ 3 วัน ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 3 วันเป็นต้น   ติดต่องานขอทราบค่าบริการ 💬คดีความ 💬ที่ปรึกษากฎหมาย 💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง Labour.clinique@gmail.com ได้เช่นเคยครับ💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย...

หายป่วยแล้วไม่กลับมาทำงาน ถือว่าขัดคำสั่งหรือไม่

หายป่วยแล้วไม่กลับมาทำงาน ถือว่าขัดคำสั่งหรือไม่   ในกรณีที่ลูกจ้างขอลาป่วยเป็นระยะเวลานานและนายจ้างอนุญาตให้ลาป่วยไปแล้ว แต่ข้อเท็จจริงปรากฏภายหลังว่า ลูกจ้างหายป่วยก่อนครบกำหนดที่ได้รับอนุญาตให้ลาไป นายจ้างมีสิทธิเรียกให้ลูกจ้างกลับมาทำงานได้ หากไม่กลับเข้าทำงาน ถือว่าจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างและเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร   คดีเรื่องหนึ่ง ลูกจ้างยื่นใบลาป่วยขอหยุดงาน 90 วัน นายจ้างอนุญาตให้ลูกจ้างลาป่วยและลูกจ้างหยุดงานแล้ว ต่อมาปรากฏว่าลูกจ้างมิได้ป่วยจนปฏิบัติงานไม่ได้และหยุดงานไปทำกิจธุระส่วนตัว นายจ้างจึงมีหนังสือให้ลูกจ้างรายงานตัวกลับเข้าทำงาน การที่นายจ้างมีหนังสือแจ้งให้ลูกจ้างทราบถือปฏิบัติ แสดงว่าเหตุแห่งการลาป่วยที่นายจ้างอนุญาตสิ้นไปแล้วและเป็นการยกเลิกการอนุญาตให้ลาป่วย เมื่อลูกจ้างฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามและนายจ้างเตือนเป็นหนังสือหลายครั้งแล้ว ย่อมเป็นการจงใจขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างและเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรนายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่จ่ายค่าชดเชยและไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า   ติดต่องานขอทราบค่าบริการ 💬คดีความ 💬ที่ปรึกษากฎหมาย 💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง Labour.clinique@gmail.com ได้เช่นเคยครับ💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง Labour.clinique@gmail.com ได้เช่นเคยครับ   #ลูกจ้าง #hr #คลินิกกฎหมายแรงงาน #มนุษย์เงินเดือนรู้กฎหมาย #ทนายฝ้าย #กฎหมายแรงงาน #วันหยุด #โอที #ot #ค่าจ้าง #ค่าแรง #ค่าทำงาน

ลูกจ้างลาป่วยคร่อมวันหยุดได้หรือไม่

ลูกจ้างลาป่วยคร่อมวันหยุดได้หรือไม่   แน่นอนว่าหลายบริษัทคงจะเคยเจอกับพฤติกรรมแบบนี้ของลูกจ้างมาบ้างไม่มากก็น้อย กล่าวคือ ลูกจ้างชอบลาป่วยคร่อมวันหยุดยาวบ้าง ลาปิดหัวท้ายวันหยุดบ้าง หรือบางคนชอบป่วยวันจันทร์ก็มีทำให้บริษัทต้องการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการออกกฎระเบียบว่าลูกจ้างห้ามลาป่วยปิดหัวปิดท้ายหรือลาคั่นกลางวันหยุด จึงเป็นประเด็นที่น่าพิจารณาว่า สรุปแล้วลูกจ้างลาป่วยคร่อมวันหยุดได้ไหม และระเบียบข้อบังคับดังกล่าวของนายจ้าง ใช้บังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่   ตอบเลยว่า ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา 32 กำหนดว่า “ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง…” ดังนั้นตราบใดที่ลูกจ้างบอกว่าป่วยย่อมลาได้เสมอ ในทำนองเดียวกัน นายจ้างก็ออกกฎระเบียบในลักษณะดังกล่าว “ไม่ได้” มีผลเป็นโมฆะเพราะกฎระเบียบนั้นขัดกับกฎหมาย หากลูกจ้างเจ็บป่วยจริง นายจ้างก็ไม่มีอำนาจห้ามไม่ให้ลูกจ้างลาป่วยได้   แต่หากปรากฏว่า นายจ้างสืบหาข้อเท็จจริงแล้วพบว่าลูกจ้างลาคร่อมวันหยุดแล้วป่วยเท็จ ไปนั่งกินเหล้าอยู่ร้านค้า หรือไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่าลูกจ้างไม่ได้ป่วยจริง แบบนี้กฎหมายย่อมไม่คุ้มครองลูกจ้างที่ไม่สุจริต นายจ้างสามารถลงโทษได้และหากการลาป่วยเท็จดังกล่าวติดต่อกัน 3 วันทำงาน ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ นายจ้างก็เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา 119 (5) นะคะ   ดังนั้นลูกจ้างโปรดใช้ความสุจริตในการลาป่วยด้วยนะคะ   ติดต่องานขอทราบค่าบริการ 💬คดีความ 💬ที่ปรึกษากฎหมาย 💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬...

งานผลิตสารเคมีอันตราย ถ้าหากมีอุปกรณ์ป้องกันแล้ว นายจ้างสั่งให้ลูกจ้างทำงาน 8 ชั่วโมง/วัน ลูกจ้างจะต้องได้รับค่าล่วงเวลาหรือไม่

งานผลิตสารเคมีอันตราย ถ้าหากมีอุปกรณ์ป้องกันแล้ว นายจ้างสั่งให้ลูกจ้างทำงาน 8 ชั่วโมง/วัน ลูกจ้างจะต้องได้รับค่าล่วงเวลาหรือไม่   แม้ว่าจะเป็นงานผลิตสารเคมีอันตราย หรือใช้สารเคมีอันตรายเป็นสารตั้งต้นในการผลิต แต่หากลักษณะของโรงงานผลิตสารเคมีปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด มีอุปกรณ์และระบบป้องกัน อีกทั้งงานของตัวลูกจ้างก็ไม่ใช่งานที่ต้องสัมผัสกับสารอันตรายเป็นระยะเวลานานก็ถือว่าไม่ใช่งานอันตรายที่ห้ามทำเกิน 7 ชั่วโมง/วัน ลูกจ้างจะไม่ได้รับค่าล่วงเวลา แต่ถ้าหากไม่เหมือนกรณีตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นทุกประการ เช่น แม้ตัวโรงงานและอุปกรณ์ป้องกันทุกอย่างจะครบถ้วนตามมารฐาน แต่ลูกจ้างต้องทำงานโดยที่ต้องสัมผัสสารเคมีนาน 7-8 ชั่วโมง กรณีนี้ลูกจ้างก็มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาเพิ่มเติมเช่นกัน ไม่ต้องไปคำนึงถึงเรื่องมีอุปกรณ์หรือระบบป้องกันตัวลูกจ้างหรือไม่ เพราะถือว่างานที่ลูกจ้างทำเป็นงานอันตรายตามกฎหมายแล้ว   คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9548-9570/2539 คุณสมบัติของสารเฟอร์ฟูรัลและเฟอร์ฟูริลแอลกอฮอล์ แม้ในอุณหภูมิปกติก็ระเหยเป็นไอได้ และเมื่อสัมผัสทางผิวหนังหรือเยื่อบุตาก็ทำให้ผิวหนังหรือดวงตาได้รับอันตราย หากเข้าสู่ร่างกายโดยทางหายใจหรือทางปากก็อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ สารดังกล่าวจึงเป็นวัตถุเคมีที่เป็นอันตรายในตัวของมันเอง เมื่อสารดังกล่าวเป็นสารที่ระเหยได้ในอุณหภูมิปกติ บุคคลที่ทำงานผลิตสารดังกล่าวจึงอาจได้รับอันตรายตลอดเวลา โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยทำงานด้านการผลิตสารดังกล่าว งานของโจทก์จึงเป็นงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกาย ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องกำหนดงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของลูกจ้าง ทั้งนี้ไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะมีระบบป้องกันอันตรายหรืออุบัติเหตุดีเพียงใดและลูกจ้างของจำเลยเคยได้รับอันตรายหรือไม่ งานดังกล่าวของจำเลยจึงตกอยู่ในบังคับประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน จำเลยจะต้องจัดให้ลูกจ้างทำงานไม่เกินสัปดาห์ละ 42 ชั่วโมง   เมื่อปรากฎว่าจำเลยให้โจทก์ทำงานสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง หรือเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมงโดยทำงาน 6 วัน เวลาทำงานปกติคือ 8 ถึง 17...

นายจ้างให้วันหยุดแทนค่าล่วงเวลาได้หรือไม่

นายจ้างให้วันหยุดแทนค่าล่วงเวลาได้หรือไม่   มาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าให้นายจ้าง จ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานวันหยุด “เป็นเงินเท่านั้น” ดังนั้นเมื่อกฎหมายกำหนดให้ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนต้องจ่ายเป็นเงินเท่านั้นนายจ้างจึงไม่สามารถกำหนดเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นหรือตกลงจ่ายโดยให้เป็นวันหยุดแทนได้   มีประเด็นที่สงสัยต่อมาว่า “หากลูกจ้าง” ตกลงยินยอมเปลี่ยนค่าล่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันหยุดล่ะสามารถทำได้หรือไม่???   ในประเด็นนี้ หากพิจารณาจากข้อกฎหมายข้างต้นแล้ว ถึงแม้นายจ้างลูกจ้างไปตกลงกันให้เปลี่ยนค่าตอบแทนจากเงินล่วงเวลาเป็นวันหยุด แต่การตกลงดังกล่าวยังคงขัดต่อกฎหมายอยู่ดี ทั้งนี้ การตกลงใดๆ ที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายแรงงาน ความที่ตกลงกันนั้นย่อมใช้บังคับไม่ได้หรือเป็นโมฆะ ดังนั้นลูกจ้างยังคงมีสิทธิเรียกร้องค่าทำงานล่วงเวลาอยู่ค่ะ   การบริหารให้ถูกต้องเสียแต่แรก แม้จะดูขัดกับประเพณีปฏิบัติของบางองค์กรอยู่บ้าง แต่การบริหารการจัดการแรงงานให้สอดคล้องกับกฎหมายก็จะช่วยป้องกันปัญหาการร้องเรียนที่จะตามมาในภายหลังได้นะคะ   ติดต่องานขอทราบค่าบริการ 💬คดีความ 💬ที่ปรึกษากฎหมาย 💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง Labour.clinique@gmail.com ได้เช่นเคยครับ💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง Labour.clinique@gmail.com ได้เช่นเคยครับ   #ลูกจ้าง #hr #คลินิกกฎหมายแรงงาน #มนุษย์เงินเดือนรู้กฎหมาย #ทนายฝ้าย...

ค่าล่วงเวลาไม่จ่ายเป็นเงินได้หรือไม่

ค่าล่วงเวลาไม่จ่ายเป็นเงินได้หรือไม่   พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา 5 กำหนดว่า “ค่าล่วงเวลา หมายความว่า เงินที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน”   จะเห็นได้ว่ามาตรา 5 ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้วว่านายจ้างต้องจ่าย “เงิน” เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการทำงานล่วงเวลาของลูกจ้างดังนั้นค่าล่วงเวลาจึงหมายถึงเงินเท่านั้น สิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่นายจ้างให้แก่ลูกจ้างจึงไม่ใช่ค่าล่วงเวลา เช่น ค่าน้ำมันรถ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร หรือให้ลูกจ้างได้หยุดเพิ่มเติมอีกวันแลกกับการทำโอที เป็นต้น   แต่หลายคนอาจสงสัยว่า แต่ถ้าหากลูกจ้างยินยอมรับสิทธิประโยชน์อย่างอื่นแทนเงินแบบนี้จะถือว่าลูกจ้างยินยอมรับประโยชน์อย่างอื่นแทนค่าจ้างล่วงเวลาได้หรือไม่   เป็นเรื่องที่ต้องทราบว่า กฎหมายแรงงานเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จะตกลงกันเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้น แม้ลูกจ้างยินยอมรับประโยชน์อย่างอื่นแทนค่าล่วงเวลา ก็ไม่ถือว่านายจ้างได้จ่ายค่าล่วงเวลาแล้ว   หลายครั้งลูกจ้างยอมรับค่าล่วงเวลาด้วยการรับเป็นวันหยุดแทนเพราะไม่มีอำนาจต่อรองและไม่อยากเสียงาน แต่นายจ้างต้องพึงทราบไว้ว่าเมื่อมีข้อพิพาทแรงงานกัน นายจ้างไม่อาจยกความยินยอมของลูกจ้างในการยอมรับค่าล่วงเวลาเป็นวันหยุดมาอ้างได้   ติดต่องานขอทราบค่าบริการ 💬คดีความ 💬ที่ปรึกษากฎหมาย 💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง Labour.clinique@gmail.com ได้เช่นเคยครับ💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง...

นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างแต่ไม่เลิกจ้าง ลูกจ้างมีสิทธิทำอย่างไรได้บ้าง

นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างแต่ไม่เลิกจ้าง ลูกจ้างมีสิทธิทำอย่างไรได้บ้าง   สัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทน ดังนั้นเมื่อลูกจ้างทำงานให้แก่ลูกจ้างแล้วนายจ้างย่อมมีหน้าที่ที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 70 หากนายจ้างไม่จ่ายตามกำหนด ลูกจ้างมีสิทธิดำเนินการดังต่อไปนี้   1. มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างที่ค้างจ่ายจากนายจ้าง โดยยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานหรือใช้สิทธิทางศาลได้   2. นายจ้างต้องจ่ายดอกเบี้ยในระหว่างที่ค้างชำระค่าจ้างในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ให้แก่ลูกจ้างจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น รวมถึงหากนายจ้าง “จงใจ” ไม่จ่ายค่าจ้าง นายจ้างจะต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 15 ทุกระยะ 7 วันอีกด้วยตามพ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 9   #ลูกจ้าง #hr #คลินิกกฎหมายแรงงาน #มนุษย์เงินเดือนรู้กฎหมาย #ทนายฝ้าย #กฎหมายแรงงาน #วันหยุด #โอที #ot #ค่าจ้าง #ค่าแรง #ค่าทำงาน

ลูกจ้างไม่ทำงานล่วงเวลาตามคำสั่งถือว่าละทิ้งงานไหม

ลูกจ้างไม่ทำงานล่วงเวลาตามคำสั่งถือว่าละทิ้งงานไหม   ทุกคนน่าจะทราบกันดีแล้วว่า โดยหลัก “ลูกจ้างไม่มีหน้าที่ทำงานล่วงเวลาให้แก่นายจ้าง” นายจ้างจะสั่งให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาไม่ได้แต่ก็มีข้อยกเว้น 2 ข้อใหญ่ๆ คือ   1. เมื่อลูกจ้างให้ความยินยอมที่จะทำเอง (เป็นสิทธิของลูกจ้างล้วนๆ)   2. เมื่อมีเหตุจำเป็น กล่าวคือ โดยลักษณะหรือสภาพของงานจะต้องทำงานติดต่อกันไปถ้าหยุดจะเสียหาย หรือเป็นงานฉุกเฉิน หรืองานอื่นตามประกาศกระทรวงกำหนด กรณีนี้นายจ้างมีอำนาจสั่งฝ่ายเดียวได้โดยไม่ต้องรับความยินยอมของลูกจ้าง หากลูกจ้างไม่ทำถือว่าจงใจขัดคำสั่ง   แบบนี้น่าจะตอบคำถามกันได้แล้วนะคะว่า การไม่ทำงานล่วงเวลาตามคำสั่งจะถือว่าเป็นการละทิ้งงานไหม ต้องพิจารณาลักษณะของงานที่ลูกจ้างทำประกอบด้วย กล่าวคือ ดูลักษณะงานถือเป็นเหตุจำเป็นตามข้อ 2. ไหม ถ้าไม่เป็นก็ไม่ถือว่าละทิ้งหน้าที่เด็ดขาด ลองดูตัวอย่างนี้กัน   ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า งานขึ้นรูปปลาสวรรค์ที่ลูกจ้างทำเป็นการนำเนื้อปลามาทำเป็นรูปปลาชิ้นเล็กๆ เป็นงานที่ทำเสร็จเป็นชิ้นๆ แม้ไม่ทำงานล่วงเวลาต่อไปก็ไม่ทำให้งานที่ทำไว้เดิมต้องเสียหายแต่อย่างใด จึงไม่ใช่งานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานต้องทำติดต่อกันไป ถ้าหยุดจะเสียหายแก่งาน แม้นายจ้างได้รับคำสั่งซื้อปลาสวรรค์จากลูกค้าเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว ก็มิใช่งานที่เกิดขึ้นทันที โดยไม่อาจคาดหมายได้ล่วงหน้า จึงไม่ใช่งานฉุกเฉิน งานขึ้นรูปปลาสวรรค์ไม่ใช่งานที่นายจ้างจะให้ลูกจ้างทำได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม การที่ลูกจ้างไม่ยินยอมทำงานล่วงเวลาไม่เป็นความผิดที่นายจ้างจะออกหนังสือเตือนและเลิกจ้าง   ติดต่องานขอทราบค่าบริการ 💬คดีความ 💬ที่ปรึกษากฎหมาย 💬 ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้ง 💬Thai/Eng 💬 งานบรรยาย สอบถามค่าบริการได้ทาง...

นิยามวันหยุดตามข้อกฎหมาย

นิยามวันหยุดตามข้อกฎหมาย 1. วันหยุด เป็นเรื่องที่สงสัยกันและถกถามกันบ่อยๆ เกี่ยวกับการทำงานล่วงเวลาและค่าตอบแทนการทำงานวันหยุด ซึ่งก่อนจะทราบเรื่องค่าตอบแทน เราต้องทราบเรื่องวันทำงานและวันหยุดก่อน ซึ่งเราจะต้องทราบก่อนว่าวันหยุดและวันทำงาน มีความหมายอย่างไร “วันหยุด” หมายถึง วันที่นายจ้างจัดให้ลูกจ้างหยุดไม่ต้องมาทำงานให้นายจ้างซึ่งอาจเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณีและวันหยุดพักผ่อนประจำปีโดยพิจารณาเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1.1 วันหยุดประจำสัปดาห์ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา 28 บัญญัติว่า “ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ สัปดาห์หนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งวัน โดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมีระยะห่างไม่เกิน 6 วัน นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้ากำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์วันใดก็ได้ ในกรณีที่ลูกจ้างทำงานโรงแรม งานขนส่ง งานในป่า งานในที่ทุรกันดาร หรืองานอื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าสะสมวันหยุดประจำสัปคาห์และเลื่อนไปหยุดเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องอยู่ในระยะเวลาไม่เกินสี่สัปดาห์ติดต่อกัน ดังนั้นในระหว่างการทำงาน นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างประเภทใดก็ตาม มีวันหยุดประจำสัปดาห์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน วันหยุดประจำสัปดาห์นี้ แต่ละวันหยุดต้องห่างกันไม่เกิน 6 วัน นายจ้างต้องจัดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ขั้นต่ำสัปดาห์ละ 1 วัน แต่นายจ้างอาจจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์มากกว่าหนึ่งวันได้ เช่น อาจให้หยุดประจำสัปดาห์ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ เป็นต้น เราจะเห็นได้ว่าวันหยุดประจำสัปดาห์ตามกฎหมาย แบ่งออกเป็น...

ปฐมนิเทศพนักงานใหม่ควรแจ้งอะไรบ้าง

ปฐมนิเทศพนักงานใหม่ควรแจ้งอะไรบ้าง   หลักสูตรปฐมนิเทศ เป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นสำหรับพนักงานที่เข้างานใหม่กับองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์ให้พนักงานรู้จักองค์กรมากขึ้น สามารถปรับตัวให้เข้ากับองค์กรได้ง่ายและเร็วมากขึ้น พร้อมที่จะทำงานให้กับองค์กร   สิ่งที่ควรแจ้งแก่พนักงานใหม่ ได้แก่ 1.ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับองค์กร หรือความรู้เกี่ยวกับสิทธิ์ต่าง ๆ ที่พนักงานได้รับ เช่น ประวัติองค์กร การเข้างาน หรือแบบฟอร์มต่าง ๆ เงินเดือนและสวัสดิการ การคำนวณค่าล่วงเวลา กฎระเบียบและวินัย สิทธิ์การลา เวลาทำงาน เวลาพัก ฯลฯ เป็นต้น   2.ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐาน หรือระบบที่องค์กรได้รับการรับรอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระบบหรือมาตรฐานของแต่ละองค์กรที่ได้รับการรับรอง เช่น องค์กรได้รับการรับรองระบบ ISO 14001 ซึ่งมีข้อกำหนดในการอบรมพนักงานในความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น   3.ความรู้ที่กฎหมายกำหนด เช่น เรื่องการอบรมลูกจ้างตาม พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีการอบรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัยในการทำงานแก่ลูกจ้างทุกคนเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นสำหรับสถานประกอบกิจการทุกแห่ง เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดเนื่องจากการทำงานและเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกจ้างได้รับบาดเจ็บ สูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือเกิดการเจ็บป่วยจากโรคจากการทำงาน เป็นต้น   4. Basic Technical Skill...