รับจ้างขับรถบรรทุกได้เงินเป็นเที่ยว ทำงานตามความสมัครใจไม่ใช่จ้างแรงงาน
ก่อนอื่น ก่อนที่จะ ตอบได้ว่าเราได้ค่าชดเชยหรือไม่และเป็นเงินเท่าไหร่ก็ต้องดูเสียก่อนว่า
เราเป็นลูกจ้างหรือเปล่า? มีนิติสัมพันธ์แบบลูกจ้างนายจ้างไหม?
การพิจารณาว่าสัญญาใดเป็นสัญญาจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 และพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หรือเป็นสัญญาจ้างทำของตามประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ มาตรา 587 นั้น แม้จะต้องพิจารณาถึงการจ่ายสินจ้างหรือค่าจ้างและการจัดหาเครื่องมือหรือสัมภาระในการท างานประกอบด้วยว่ากรณีสัญญาจ้างแรงงาน นายจ้างต้องจ่ายสินจ้างหรือค่าจ้างให้ตลอดเวลาที่ลูกจ้างท างานให้ แต่สัญญาจ้างท าของผู้ว่าจ้างต้องจ่ายสินจ้างตามความสำเร็จของการงานที่ตกลงกัน และสัญญาจ้างแรงงานลูกจ้างไม่ต้องจัดหาเครื่องมือหรือสัมภาระในการท างาน ส่วนสัญญาจ้างทำของ ผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาเครื่องมือสำหรับใช้ทำการงาน
ดังนั้น หากรับจ้างขับรถส่งของต้องมีรถบรรทุกสินค้าของตัวเอง จ่ายค่าตอบแทนตามผลงานเป็นเที่ยว จะมาทำงานในวันไหนได้ตามความสมัครใจ มีอิสระเสรีเหนือสิ่งอื่นใด ก็ไม่ใช่จ้างแรงงาน เมื่อมีการเลิกจ้างหรือไม่มีการใช้งานกันอีกต่อไปจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
ฎ.13825/2555
ในการขนส่งสินค้านั้น โจทก์ จะต้องมีรถบรรทุกสินค้าของตนเอง จำเลยจะจ่ายคำจ้างให้เฉพาะ
วันที่ได้ปฏิบัติงานส่งสินค้าให้แก่จำเลยเท่านั้น วันที่ไม่ได้ปฏิบัติงานจะไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง การจ้างงานขนส่งสินค้าเช่นนี้จึงมีลักษณะบ่งบอกถึงจำเลยมุ่งผลสำเร็จของงาน คือให้มีการขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้าตามช่วงเวลานั้นจนสำเร็จเสร็จสิ้นไปเป็นสำคัญ หาไต้มุ่งถึงแรงงานที่จำเลยจะได้รับจากการขับรถของโจทก์ไม่ ?
นอกจากนี้ยังปรากฏว่าในการทำงานนั้น โจทก์ จะมาทำงานในวันใตก็ได้ตามความสมัครใจ แสดงว่า จำเลย ไม่มีอำนาจควบคุมบังคับบัญชาโจทก์ ว่าโจทก์ จะต้องมาทำงานในวันใดหรือเวลาใด ไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานว่า โจทก์ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของ จำลย และหากโจทก์ ฝ่าฝืนไม่ยอมปฏิบัติตาม จำเลย มีสิทธิลงโทษทางวินัยแก่โจทก์ได้
อำนาจควบคุมบังดับบัญซาลูกจ้างเป็นสาระสำคัญของสัญญาจ้างแรงงาน นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์ และจำเลย จึงมีลักษณะเป็นจ้างทำของ หาใช่เป็นสัญญาจ้างแรงงานไม่